อัพเดตเทรนด์แฟชั่นต้อนรับลมหนาว กับยูนิโคล่ ณ กรุงลอนดอน

เมื่อไม่นานมานี้มีอีเวนต์ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นั่นคือ แบรนด์ยูนิโคล่ (Uniqlo) ที่ได้มีการจัดงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่เพื่ออวดโฉมแฟชั่นคอลเลกชั่นใหม่ต้อนรับลมหนาว เพื่อให้แฟชั่นนิสต้าทั้งหลายได้สวมใส่อย่างมั่นใจ สมกับการเป็นแบรนด์แฟชั่นที่สวมใส่ได้จริง ภายใต้แนวคิด LifeWear

เพื่อให้อินเทรนด์และเข้ากับไลฟ์สไตล์ในขณะนี้ที่ฤดูหนาวกำลังมาเยือน ยูนิโคล่ จึงได้จัดนิทรรศการพิเศษ “The Art and Science of LifeWear: New Form Follows Function” ที่ตึก Somerset House ซึ่งเป็นสถานที่สุดพิเศษสำหรับการจัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมในกรุงลอนดอนขึ้นเป็นครั้งแรก

นิทรรศการนี้จัดขึ้นในช่วงงาน “ลอนดอน แฟชั่น วีก” ที่ประเทศอังกฤษพอดี โดยเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งใหญ่เพื่อบ่งบอกถึง LifeWear อันเป็นหลักปรัชญาของยูนิโคล่ที่แสดงถึงความเรียบง่าย คุณภาพ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามเพื่อยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น

โดยตัวแทนจากประเทศไทยที่ได้รับเกียติเข้าร่วมงานครั้งนี้ ประกอบด้วย “มาดามมอนทัวร์” (MadameMonTour) นิตยสาร GQ ประเทศไทย, “แม่หมู-พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” ที่มากับลูกชาย ซุปตาร์จากเมืองไทย “น้องนาย-ณภัทร เสียงสมบุญ” ร่วมด้วยสอง Net Idols ชื่อดังของไทย อย่าง น้องเมย์อาร์ และน้องพิมฐา

ด้าน “มร.ทาดาชิ ยาไน” ผู้ก่อตั้งยูนิโคล่ และประธานกรรมการ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฟาสต์ รีเทลลิ่ง กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดนิทรรศการ LifeWear ประจำปีที่กรุงลอนดอนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นตลาดไร้พรมแดนนอกประเทศญี่ปุ่นแห่งแรกที่ยูนิโคล่ได้มาเปิดตัวเมื่อ 20 ปีที่แล้ว” มร.ยาไน ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “การจัดแสดงที่เปี่ยมไปด้วยความน่าดึงดูดในธีมต่างๆ จะแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรม คุณภาพ คุณค่า และความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องในสินค้าของเรา โดยเฉพาะในด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าทุกวันนี้”

The Art and Science, Form and Function คือ คอนเซ็ปต์หลักของนิทรรศการ LifeWear Day ที่กรุงลอนดอนในปีนี้ ทำให้ผู้เข้าชมได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวในการออกแบบเสื้อผ้าที่หลายคนหลงรัก รวมถึงเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของยูนิโคล่ ผ่านการแสดงผลงานที่ต่อเนื่องทั้งจากประสบการณ์และการทดลองเช่นเดียวกับนิทรรศการที่จัดขึ้นที่มหานครนิวยอร์ก และกรุงปารีส

ภายในงานได้พบกับงานศิลป์และเพลิดเพลินไปกับห้องกระจกพร้อม 50 Colours of Socks ซึ่งเป็นถุงเท้าของยูนิโคล่ 50 เฉดสีที่ประดับไฟมีสีสันสำหรับถ่ายรูปเก๋ๆ ลงอินสตาแกรมกันอย่างจุใจ จุดเด่นภายในงานอีกอย่างคืองานศิลป์สลับลายขนาดใหญ่ที่สร้างสรรค์จากสินค้า LifeWear จำนวนมากบนเพดาน ผสานกับทางเดินที่ให้คุณได้สัมผัสการรับรู้ผ่านอุโมงค์ผ้า AIRism ของยูนิโคล่ที่ย้อมลายไล่เฉดสีตั้งแต่สีฟ้าไปจนถึงสีขาว

ทั้งนี้ ยูนิโคล่ยังได้จัดแสดงศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีในโซนการทดลองอีกด้วย โดยผลงานมาสเตอร์พีซอยู่ที่ห้อง HEATTECH ซึ่งมีการสาธิตการทำงานของนวัตกรรมผ้านี้ให้ได้ชมกัน ผู้เข้าชมจะได้ดื่มด่ำไปกับพื้นที่จัดงานอันกว้างขวางพร้อมจอภาพขนาดยักษ์ที่ใช้สำหรับแสดงเทคโนโลยีในระดับเล็กจิ๋ว ซึ่งมีการสาธิตอันน่าดึงดูดใจที่เผยถึงความลับที่อยู่เบื้องหลังศาสตร์ที่ก่อกำเนิดนวัตกรรมอื่นๆ ของยูนิโคล่อย่างเช่น AIRism, BLOCKTECH และเสื้อขนเป็ด Ultra Light Down

นอกจากนี้ ภายในงานยังสร้างจุดสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืน โดยยูนิโคล่เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและแสวงหาการเจริญเติบโตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในนิทรรศการมีโซนสำหรับแสดงความสำเร็จของบริษัทด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ รวมถึงโครงการรีไซเคิลเสื้อผ้าทั่วโลก ความร่วมมือระดับสากลระหว่าง องค์กร UNHCR (สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ) และ Jeans Innovation Center ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อปฏิวัติการผลิตและการออกแบบกางเกงยีนส์โดยเฉพาะ

ที่สำคัญในงานนี้ยังได้พบกับสินค้า Collaborations พิเศษ พร้อมจำหน่ายที่ป๊อปอัปสโตร์เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองงานลอนดอน แฟชั่น วีก ผู้เข้าชมสามารถเลือกซื้อเสื้อยืด UT (UNIQLO T-shirts) รุ่นพิเศษจำนวนจำกัดได้ รวมถึงไอเทมพิเศษภายใต้ความร่วมมือกับสถานีวิทยุ NTS ในกรุงลอนดอน โดย NTS ได้จัดกิจกรรมพิเศษในช่วงเย็นซึ่งประกอบไปด้วยการแสดงดนตรี อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเวิร์กช็อปที่ Somerset House

รวมถึงการแสดงสดของศิลปะแนว Collage โดยศิลปิน “โกซุเกะ กาวามุระ” ศิลปินแนว Collage โดยโกซุเกะจะมาร่วมนำเสนอผลงานความร่วมมือกับยูนิโคล่ภายใต้คอลเลกชันเสื้อยืด UT ลาย Dragon Ball ที่จะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเมื่อไม่นานมานี้โกซุเกะได้จัดแสดงสดของศิลปะที่งาน ซึ่งในครั้งนี้ เขาได้สร้างสรรค์ผลงานภาพวาดตัวการ์ตูน “ดรากอน บอลล์” จากคอลเลกชันเสื้อยืดลงบนผืนผ้าใบขนาด 2 เมตร อีกด้วย

สรุปได้ว่า LifeWear เป็นปรัชญาแห่งเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและมีคุณภาพสูง ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงและสวยงาม ในงานนี้ที่ลอนดอนจึงมองเห็นถึงรูปแบบของดาวห้าแฉกที่พัฒนาประสบการณ์ทั้งหมดสำหรับยูนิโคล่ รวมถึงเอกลักษณ์ของนิทรรศการกราฟิกและการโฆษณาเนื้อหาวิดีโอที่จัดแสดงภายในงาน การออกแบบนิทรรศการการติดตั้งการทดลองเชิงโต้ตอบและการออกแบบเสียง นิทรรศการมีพื้นที่ประมาณ 750 ตารางเมตรและแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ซึ่งแสดงค่านิยมหลักของนวัตกรรมคุณภาพและความยั่งยืนของ LifeWear

รูปดาวห้าแฉกที่ว่าพัฒนาเอกลักษณ์ของภาพและกราฟิกสำหรับการจัดนิทรรศการเช่นเดียวกับสื่อการตลาดและการโฆษณา แรงบันดาลใจจากรูปแบบการจัดแต่งเพื่อให้กับฤดูกาลนี้ของยูนิโคล่

นิทรรศการเริ่มต้นด้วยเส้นเวลากราฟิกที่สร้างขึ้นโดย Pentagram ทำแผนผังเรื่องราวของยูนิโคล่ ทำให้ผู้เข้าชมสามารถสำรวจโซนที่แตกต่างกัน 5 โซน ในขณะที่พวกเขาเดินผ่าน 2 ชั้นของนิทรรศการ ตลอดชั้นล่างของ Embankment Galleries ผนังของนิทรรศการนั้นทำจากกล่องผ้าที่สะท้อนสถาปัตยกรรมโชจิของญี่ปุ่นและมีเอกลักษณ์ของนิทรรศการและเนื้อหากราฟิก วิธีนี้ทำให้การออกแบบติดตั้งโดยไม่ต้องสัมผัสกำแพงแกลเลอรี่และสามารถนำกล่องไฟกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งหมายความว่าวิธีการนี้จะช่วยตอกย้ำให้เห็นว่า ไม่ว่ายูนิโคล่จะทำอะไรก็จะให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน

จากการแสดงผลงานแฟชั่นในครั้งนี้ที่กรุงลอนดอน จึงสามารถกล่าวได้เต็มปากว่ายูนิโคล่เป็นแบรนด์แฟชั่นแบรนด์เดียวที่ใส่ใจทุกแรงบันดาลใจ แนวคิด การออกแบบ กระบวนการผลิต รวมถึงการอ่านขาดถึงความต้องการของผู้สวมใส่ว่าต้องการอะไร อินเทรนด์หรือไม่ มีความยั่งยืนอย่างไร และยังคงเดินทางหลักคิดในการเป็น LifeWear ได้เป็นอย่างดี